ประกาศความเป็นส่วนตัว สำหรับลูกค้า

เวอร์ชั่น 66.06.8

อัปเดทล่าสุดเมื่อ: 30 มิถุนายน 2023

ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของท่านเมื่อใช้หน้าเว็บไซต์ การซื้อสินค้าและบริการบนเว็บและหน้าร้าน การสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัท โอแอล รีพับลิค จำกัด และเว็บไซต์ Shoes-Republic.com

กรุณาอ่านรายละเอียดดังนี้ให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะทำการใช้บริการในลำดับต่อไป

บริษัท โอแอล รีพับลิค จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่ถูกบันทึกไว้ ทั้งที่อยู่และไม่อยู่ในรูปแบบข้อมูลที่มีสาระสำคัญ ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลดังกล่าวปรากฏชัดเจนหรือสามารถตรวจสอบยืนยันได้อย่างสมเหตุสมผลและโดยตรงจากบริษัทที่ถือครองข้อมูล หรือเมื่อรวมเข้ากับข้อมูลอื่นๆ แล้วจะสามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงและแน่นอน) รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน ได้แก่ ข้อมูลที่เกี่ยวกับเท้า ขนาดเท้า และรองเท้า ประวัติการซื้อสินค้า หรือข้อมูลใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในลักษณะเดียวกัน (“ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน”) บริษัทจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ตามที่กำหนดไว้ภายใต้ระเบียบข้อบังคับ แนวทางปฏิบัติ คำสั่งที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล .. 2562 (2019) ที่บังคับใช้ และการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายใดๆ หรือการออกกฎหมายใดๆ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล .. 2562 (2019) เป็นครั้งคราว (เรียกรวมกันว่าPDPA”)


การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทมีสิทธิ์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้ครอบครองไว้ก่อนวันที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ในส่วนที่เกี่ยวข้องในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทสามารถดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปในการให้สิทธิพิเศษต่างๆแก่สมาชิกในการเสนอผลิตภัณฑ์ และสิทธิพิเศษอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่สมาชิก ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยติดต่อบริษัทที่อีเมล์ olrepublic@gmail.com อย่างไรก็ดี การที่ท่านเลือกที่จะถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  ท่านอาจเสียสิทธิพิเศษของสมาชิก เสียสิทธิการให้รับบริการจากบริษัท หรือเสียสิทธิการสนองตอบข้อร้องขออื่นๆของท่านได้

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บ

ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน เช่น ชื่อ-สกุล เลขที่บัตรประชาชน ที่อยู่ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ Line-id

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ขนาดเท้า ปัญหาเท้า รูปแบบเท้า ข้อความแชท ภาพบันทึกและภาพเคลื่อนไหวจากระบบ CCTV ในร้าน

ข้อมูลอื่นๆ เช่น ข้อมูลติดต่อ (อันได้แก่ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ในการจัดส่งสินค้า) ประวัติการซื้อสินค้า

วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลที่ "บริษัท"​ ได้เก็บรวบรวม จะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ

รายละเอียด

ฐานในการประมวลผลข้อมูล

1. เพื่อการดำเนินการตามคำขอของลูกค้าก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา

ยืนยันตัวตนหรือระบุตัวตนของลูกค้าในเวลาที่เข้าใช้บริการแพลตฟอร์มของบริษัท การขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ลูกค้า หรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งลูกค้าเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึง การจัดการ account ของลูกค้า ข้อมูลการสมัครเข้าเป็นสมาชิก จัดส่ง การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และการคืนสินค้า และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าและ/หรือ บริการ หรือตามที่ลูกค้าได้ร้องขอ

• การปฏิบัติตามสัญญา

2. เพื่อการบริหารจัดการด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์

โฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำแคมเปญทางการตลาด วิเคราะห์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และติดต่อลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ นำส่งการแนะนำสินค้าบริการต่างๆ โปรโมชั่น หรือสินค้าบริการใหม่ๆ ของกลุ่มบริษัท ที่คิดว่าเป็นประโยชน์และเหมาะสมกับลูกค้าผ่านทางจดหมายเชิญ อีเมล โทรศัพท์ หรือวิธีการอื่นๆ โดยลูกค้าสามารถยื่นขอให้ทางแบรนด์หยุดส่งข้อมูลแนะนำดังกล่าวได้

• ความยินยอม

3. เพื่อการบริหารจัดการด้านปฏิบัติการ (Operation) และการดูแลลูกค้าหลังการขาย

ตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้ขัอมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ ใช้ในการตรวจสอบขนาดสินค้า และแนะนำขนาด รูปแบบสินค้าที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

• ประโยชน์โดยชอบธรรม
• ความยินยอม

 

เพื่อนำมาพัฒนาช่องทางการให้บริการออนไลน์ของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการจากบริษัท อย่างมีคุณภาพ รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด

• ประโยชน์โดยชอบธรรม

 

เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานหรือถ่ายโอนข้อมูลในบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ที่บริษัทได้ให้บริการต่อลูกค้า ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้มากกว่า 1 เครื่อง และเพื่อให้บริษัทสามารถดูแลตรวจสอบการเข้าใช้งานบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่น หรือการใช้งานโดยฉ้อฉล หรือในทางมิชอบ รวมถึงเพื่อปรับปรุงการให้บริการของบริษัทให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบธรรม

4. การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

จัดทำระบบสารสนเทศเพื่อเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล เชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้า ตัวแทน

• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบธรรม
• ความยินยอม

 

จัดทำและให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประมวลผลข้อมูลของลูกค้าจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของบริษัท เช่น Facebook, Instagram, Linkedin, Twitter, Youtube, Line เป็นต้น

• การปฏิบัติตามสัญญา
• ประโยชน์โดยชอบธรรม
• ความยินยอม

5. เพื่อให้สามารถจัดการ พัฒนาและดำเนินการใดๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การบริหารจัดการสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน) การตรวจและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุงรักษาและการใช้ระบบไอที

• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบธรรม
• ความยินยอม

 

การวัดประสิทธิภาพของนโยบายทางการตลาดของบริษัท และเพื่อวัดประสิทธิผลของการโฆษณาของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ

• ประโยชน์โดยชอบธรรม
• ความยินยอม

6. การบริหารจัดการงาน เรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง

การตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต การฉ้อโกง หรือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน

• การปฏิบัติตามสัญญา
• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบธรรม

 

การดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือดำเนินมาตการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย การระงับข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทกับลูกค้าอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท

• การปฏิบัติตามสัญญา
• การปฏิบัติตามกฎหมาย
• ประโยชน์โดยชอบธรรม

 

การโอนข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บข้อมูลของลูกค้าบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และบริษัทจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม

การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

(1) บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้านานตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่บริษัทจะต้องเก็บรวบรวม ใช้และประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติ ตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ

(2) บริษัทจะยังดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าต่อไป แม้ว่าลูกค้าจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัท เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

(3) บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ใน ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ลูกค้ายุติความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท โดย บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้านานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต

(4) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาและอายุความที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไร ก็ตาม บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าต่อไปแม้จะพ้นอายุความตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

(5) บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เป็นการถาวร หรือโดยประการอื่นเพื่อจำกัด ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเมื่อบริษัท ต้องปฏิบัติตามคำขอของลูกค้าให้บริษัททำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า


สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

            หากลูกค้าได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ลูกค้าให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ลูกค้ามีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ลูกค้าอยู่

            ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของลูกค้าอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น ลูกค้าจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ลูกค้า เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของลูกค้า จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

   (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

            ลูกค้ามีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับลูกค้า รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของลูกค้าหากการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

   (3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

            ลูกค้ามีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

            ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งลูกค้าเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้าก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหน

   (4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

            ลูกค้ามีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ลูกค้าสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากลูกค้ายื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของลูกค้า หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

   (5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล

            ลูกค้ามีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวลูกค้าได้ หากลูกค้าเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อลูกค้าได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

   (6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

            ลูกค้ามีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของลูกค้า หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ลูกค้าขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

   (7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

            ลูกค้ามีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด 

   (8) สิทธิร้องเรียน

            ลูกค้ามีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากลูกค้าเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

            ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด

            บริษัทมีสิทธิทั้งปวงและดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตอบรับเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอหรือปฏิเสธคำขอของลูกค้า การใช้สิทธิของลูกค้าอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของลูกค้าได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

ประกาศความเป็นส่วนตัวของเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมีผลต่อกิจกรรมและเนื้อหาของข้อมูลที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีผลย้อนหลัง เราขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อดูว่าเราได้ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพื่อที่ท่านจะได้เข้าใจในนโยบายและแนวทางล่าสุดของเราเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของท่าน

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ทางบริษัทตระหนักถึงการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างเข้มงวดต่อเนื่องเสมอมา และตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวของท่าน และจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นความลับอย่างดีที่สุด ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูล

บริษัทได้มีการทบทวน ปรับปรุงขั้นตอนและมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทให้เป็นปัจจุบันสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และให้การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ความสมบูรณ์ ความพร้อมใช้งานและความคล่องตัวในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการปกป้อง การสูญหายและการเก็บรวบรวม การเข้าถึง การใช้ การดัดแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ บริษัทจะนำมาตรการต่าง ๆ ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมาใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทุกประเภท ไม่ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือรูปแบบเอกสารก็ตาม

ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถติดต่อกับทางบริษัท รวมถึงการขอถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอหยุดการรับอีเมลส่งเสริมการขายหรือไปรษณีย์แจ้งข้อมูล หรือ โทรศัพท์จากบริษัทได้โดยส่งอีเมลล์มาที่ olrepublic@gmail.com ได้ตลอดเวลา

=====